เหยื่อเหยียบทุ่นระเบิด ครอบครัวยากจนวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
วันที่ 29 ส.ค. 2563 เวลา 18:34 น.
สุรินทร์-ญาติเหยื่อเหยียบทุ่นระเบิด นิมนต์พระสงฆ์สวดเรียกดวงวิญญาณกลับบ้านเกิด ครอบครัวผู้ตายยากจน ขาดเสาหลัก อยู่กับตายาย วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 29ส.ค.63 เวลา 10.00น.ครอบครัวและญาติพี่น้องของ น.ส.มุนิลตา สาลีมี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.10 บ.ทุ่งหลวง ต.ห้วยตึ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิดดักรถถังขนาดกลาง ขณะเข้าป่าหาเห็ด จนทำให้ ชิ้นส่วนร่างกายฉีกขาดกระเด็นไปคนละทิศละทางด้วยแรงระเบิดที่รุนแรง ที่บริเวณป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้กับช่องพริก ทิศใต้บ้านตระเวง หมู่ 2 ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.63 ได้นิมนต์พระสงฆ์ 2 รูป เพื่อไปประกอบพิธีสวดมนต์เรียกดวงวิญญาณให้กลับบ้านเกิด ก่อนจะไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีฌาปณกิจศพที่บ้านเกิดต่อไป โดยมีเจ้าหน้าที่ ตชด.214 และ จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญในการอำนวยความสะดวก เดินนำทางเข้าไปในป่าดังกล่าว
สำหรับผู้เสียชีวิต มีลูก 3 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.สุมินตรา บุญเรือง อายุ 24 ปี มีครอบครัวแล้ว ,2.น.ส.นัฐชา บุญเรือง อายุ 23 ปี และ 3.ด.ช.ปวีย์ สาลีมี อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 อาศัยอยู่กับตายาย มีฐานะยากจน ส่วนสามีผู้เสียชีวิต ก็ได้เสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว โดยจะมีพิธีฌาปณกิจศพในวันพรุ่งนี้ (30 ส.ค.63) ที่วัดบ้านทุ่งทุ่งหลวง ต.ห้วยตึ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษาบุตรชายของผู้เสียชีวิต สามารถโอนเงินบริจาคช่วยเหลือได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน สาขาขุขันธ์ เลขที่ 020319541007 ชื่อบัญชี นางบัวไข สาลีมี (ซึ่งเป็นยายที่ดูแล)
น.ส.สุมินตรา บุญเรือง ลูกสาวคนโตของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า แม่ของตนมีความฝันอยากสร้างบ้านให้ตายายอยู่ แต่ไม่ทันได้สร้าง ยังไม่สำเร็จ ก็มาเสียชีวิตก่อน น้องชายก็กำลังเรียนหนังสือ ตนเองก็ต้องไปทำงานต่างจังหวัดกับครอบครัว ไม่มีเสาหลักดูแลน้องๆและตายายแล้ว รู้สึกใจหายและยังทำใจไม่ได้กับเหตุการร์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ส.ค.63 ผู้เสียชีวิตพร้อมเพื่อนบ้านและญาติจำนวน 9 คน เป็นชาย 3 คนหญิง 6 คน ได้เดืนทางมาถึงเขตแดนชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณช่องพริก จากนั้นแต่ละคน ได้แยกย้ายกันเดินขึ้นภูเขา เพื่อเข้าป่าหาเห็ด ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินไปคนเดียวบริเวณเขตรอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ญาติได้เรียกหาให้กลับมาหาเห็ดใกล้ๆกัน จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ทำให้ทุกคนที่เดินทางมาด้วยกัน ต่างรู้เลยว่าผู้ตายต้องไปเหยียบกับดักทุ่นระเบิดอย่างแน่นอน ซึ่งผู้ตายเพิ่งเดินทางมาหาเห็ดเป็นครั้งแรกเลยไม่ชินกับเส้นทาง ซึ่งจุดที่เกิดเหตุมีร่องรอยการเกิดระเบิด พื้นที่ดินแตกกระจาย เป็นบริเวณกว้าง กิ่งไม้ ใบไม้หล่นลงพื้น เป็นบริเวณกว้าง ตามอานุภาพของแรงระเบิด ร่างของนางสุมิลตา ถูกสเก็ตระเบิดที่บริเวณลำตัว แขนขา หัก หน้าท้อง ใบหน้าฉีกขาด มีบาดแผลขนาดใหญ่ทั่วร่างเละ ชิ้นส่วนร่างกายกระเด็น ออกจากจุดระเบิดไปคนละทิศละทาง เสียชีวิตคาที่
ขณะที่เจ้าหน้าที่ เตือนประชาชนอย่าเข้าใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะเป็นพื้นที่เคยมีการสู้รบในอดีต มีการวางกับระเบิด และทุ่นระเบิดไว้เป็นจำนวนมาก ยังไม่สามารถเก็บกู้ได้หมด หากจะหาเก็บเห็ดป่าให้หาเก็บไม่ไกลจากชุมชนชายแดนมากนักจะปลอดภัยกว่า
"เหยื่อ" - Google News
August 29, 2020 at 06:42PM
https://ift.tt/3hHmnH1
เหยื่อเหยียบทุ่นระเบิด ครอบครัวยากจนวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ - โพสต์ทูเดย์
"เหยื่อ" - Google News
https://ift.tt/302hlPE
No comments:
Post a Comment